วันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ว่าด้วยเรื่อง....สวัสดิการสอ.มก. (1)


ว่าด้วยเรื่อง....สวัสดิการสอ.มก. (1)

 ทวีวัฒน์  ทัศนวัฒน์ (2210)

 

ในการจัดสรรกำไรสุทธิประจำปีนั้นกฎหมายสหกรณ์กำหนดให้จัดสรรเป็นทุนสำรองไม่น้อยกว่า 10% ของกำไรสุทธิ และจัดสรรเป็นเงินค่าบำรุงสันนิบาตสหกรณ์ฯก่อน ที่เหลือจึงจะนำไปจัดสรรเป็นเงินปันผล เงินเฉลี่ยคืน และอื่นๆตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับของสหกรณ์ได้  ทุนสำรองของสหกรณ์นั้นยิ่งมีมาก สหกรณ์ยิ่งมั่นคง  ผู้ที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์นานกว่าย่อมมีส่วนในทุนสำรองที่มากกว่า แต่เนื่องจากสมาชิกไม่สามารถนำทุนสำรองมาแบ่งปันกันหรือจะเรียกร้องส่วนใดส่วนหนึ่งจากทุนสำรองนี้ก็ไม่ได้   ทำอย่างไรที่ประชุมใหญ่จึงจะพร้อมใจกันจัดสรรกำไรสุทธิเป็นทุนสำรองในอัตราที่มากกว่ากฎหมายกำหนด  ถ้ามองว่าทุนสำรองเป็นเงินออมของสมาชิกทุกคน  ในแต่ละปีมันจะ ปันผลให้เจ้าของได้อย่างไร?  มองในมุมนี้คณะกรรมการดำเนินการสอ.มก.ประจำปี 2547 จึงนำประเด็น  อัตราการเติบโตของทุนสำรองในแต่ละปีและระยะเวลาของสมาชิกในการมีส่วนร่วมกับทุนสำรอง เป็นปัจจัยหลักในการคิดระบบสวัสดิการ สอ.มก.ซึ่ง เป็นสิ่งที่ได้ทั้งตัวองค์กรและสมาชิก  องค์กรได้ความมั่นคง ขณะที่สมาชิกได้สวัสดิการ

สอ.มก.ประกาศใช้ระเบียบว่าด้วยการใช้ทุนสวัสดิการให้แก่สมาชิก เมื่อ  28  เม.. 2548 โดยใช้การเติบโตของทุนสำรองและปัจจัยที่เกี่ยวข้องเป็นแนวคิดในการพัฒนาและจัดแบ่งสวัสดิการออกเป็น 2  กลุ่มใหญ่ๆเรียกว่า สวัสดิการหลัก และสวัสดิการเสริม สวัสดิการหลัก เป็นสวัสดิการที่สมาชิกทุกคนได้รับ สำหรับสวัสดิการเสริมนั้นสมาชิกจะมีสิทธิ์ได้รับต่อเมื่อมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของสวัสดิการเสริมประเภทนั้นๆ  สวัสดิการทั้งสองกลุ่มจ่ายจากทุนสวัสดิการและทุนสาธารณประโยชน์ ซึ่งได้รับการจัดสรรจากที่ประชุมใหญ่ทุกปี

สวัสดิการหลัก ประกอบไปด้วย สวัสดิการวันเกิด สวัสดิการเสริมสร้างคุณภาพชีวิต และสวัสดิการครองชีพ      

สวัสดิการวันเกิด จะจ่ายให้สมาชิกทุกคนทุกปีในเดือนที่สมาชิกเกิด สำหรับสมาชิกแรกเข้าจะเริ่มได้รับสวัสดิการนี้หลังจากการเป็นสมาชิกนั้นได้ผ่านปีบัญชีของสอ.มก.แล้วเพราะถือว่ามีส่วนในกำไรสุทธิประจำปีที่เกิดขึ้น แต่ ต้องเข้ารับการปฐมนิเทศสมาชิกใหม่ที่สอ.มก.จัดด้วย  เงินวันเกิดปีแรกเริ่มที่ 200 บาท ในปีที่เริ่มใช้ระเบียบสวัสดิการนี้ขั้นวิ่งแรกเริ่มที่ 20 บาทและจะปรับเพิ่มขึ้นหลังจากเป็นสมาชิกครบทุก  5 ปี ใน 15 ปีแรกของการเป็นสมาชิกขั้นวิ่งที่ปรับเพิ่มขึ้นจะเท่ากับ 5 บาท และจะปรับเพิ่มเป็น 2 เท่าในทุก 15 ปีถัดไป  มีการปรับขั้นวิ่งแรกจาก 20 เป็น 25, 30, 35 และ 40 บาทในปี 2555 ตามการเติบโตของทุนสำรองตามลำดับ รายละเอียดสวัสดิการวันเกิดประจำปี 2555 แสดงในตารางข้างล่างนี้ครับ

ปีที่
บาท
ปีที่
บาท
ปีที่
บาท
ปีที่
บาท
1
200
16
895
31
1,985
46
3,865
2
240
17
955
32
2,085
47
4,045
3
280
18
1,015
33
2,185
48
4,225
4
320
19
1,075
34
2,285
49
4,405
5
360
20
1,135
35
2,385
50
4,585
6
405
21
1,205
36
2,505
51
4,805
7
450
22
1,275
37
2,625
52
5,025
8
495
23
1,345
38
2,745
53
5,245
9
540
24
1,415
39
2,865
54
5,465
10
585
25
1,485
40
2,985
55
5,685
11
635
26
1,565
41
3,125
56
5,945
12
685
27
1,645
42
3,265
57
6,205
13
735
28
1,725
43
3,405
58
6,465
14
785
29
1,805
44
3,545
59
6,725
15
835
30
1,885
45
3,685
60
6,985
ขั้นวิ่งปรับเพิ่มขึ้น 5 บาทเมื่อครบทุก 5  ปีของการเป็นสมาชิก
ขั้นวิ่งปรับเพิ่มขึ้น 10 บาทเมื่อครบทุก 5 ปีของการเป็นสมาชิก
ขั้นวิ่งปรับเพิ่มขึ้น 20 บาทเมื่อครบทุก 5 ปีของการเป็นสมาชิก
ขั้นวิ่งปรับเพิ่มขึ้น 40 บาทเมื่อครบทุก 5 ปีของการเป็นสมาชิก

 

เนื่องจากคณะกรรมการดำเนินการชุดใหม่แต่ละชุดจะเริ่มทำงานปลายเดือนมกราคมของทุกปี ดังนั้นจึงนับเดือนกุมภาพันธุ์เป็นเดือนแรกของการโอนเงินสวัสดิการวันเกิด สำหรับตัวเลข 15 ปีที่ใช้นั้นเอามาจากข้อบังคับฯที่ว่าสมาชิกสามารถหยุดส่งหุ้นได้เมื่อส่งหุ้นมาแล้ว 15 ปี

เงินวันเกิด ปีที่ 30 ของการเป็นสมาชิกปัจจุบันเท่ากับ  1,885 บาท ถ้าอยากได้ ไม่ต่ำกว่า 5,000 บาทเพื่อทำให้ชีวิตช่วงเกษียณดีขึ้น จะมีแผนในการดำเนินการอย่างไรดีครับ?