คาราโอเกะ....ได้ความสุขทั้งคนร้องและคนฟัง
สมมารถ ชื่นอิ่ม (9335)
คาราโอเกะ คือการร้องเพลงของบุคคลทั่วไป ( ไม่ใช่นักร้องอาชีพ ) ร้องไปกับเสียงดนตรีที่ไม่มีคนร้องและมีเนื้อเพลงปรากฏตามจังหวะของเสียงเพลงอยู่ที่ด้านล่างของจอทีวีหรือจอคอมพิวเตอร์
คาราโอเกะ เป็นภาษาญี่ปุ่น คารา แปลว่า ว่างเปล่า
โอเกะ เป็นคำย่อซึ่งแปลว่า ดนตรี คาราโอเกะจึงแปลว่า ดนตรีที่ว่างเปล่า หรือดนตรีที่ไม่มีคนร้อง คำที่ขึ้นต้นด้วย คารา อีกคำหนึ่งที่เราคุ้นเคยดีคือ คาราเต้ ซึ่งแปลว่าศิลปการป้องกันตัวด้วยมือเปล่า
ประวัติความเป็นมาของคาราโอเกะย้อนหลังไปราว 50 ปีครับ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา รายการของสถานีโทรทัศน์ เอ็น บี ซี รายการหนึ่ง พิธีกรจัดให้มีวงดนตรีบรรเลงและมีเนื้อเพลงปรากฏที่ด้านล่างของจอทีวี ตามจังหวะของเสียงเพลง พร้อมกับชักชวนให้ผู้ชมทางบ้านร้องตาม แต่ไม่เป็นที่นิยมของคนอเมริกัน รายการนี้จึงเลิกไปในที่สุด
แต่ผู้รู้ส่วนใหญ่บอกว่า
คาราโอเกะ เกิดขึ้นครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่นราว 40 ปี มาแล้ว ที่บาร์แห่งหนึ่งในเมือง โกเบ นักร้องประจำวงเกิดป่วยกระทันหัน ไม่สามารถมาร้องขับกล่อมแขกที่มาเที่ยวได้เหมือนทุกๆคืน คุณไดสุเกะ อิโนอุ มือกลอง ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ด้วยการให้วงดนตรีบรรเลงโดยไม่มีนักร้อง พร้อมแจกเนื้อเพลงให้แขกร้องตาม ปรากฎว่าเป็นที่ชื่นชอบ พออกพอใจของแขกที่มาเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง
จากนั้น คุณ ไดสุเกะ จึงเกิดความคิดพัฒนาเป็นตู้เพลงคาราโอเกะ และให้บาร์อื่นๆเช่า จนเป็นที่แพร่หลายทั้งในประเทศญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆในเอเซีย รวมทั้งอีกหลายๆประเทศในยุโรปและอเมริกา คาราโอเกะเป็นที่นิยมของนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก เพราะช่วยให้คลายเครียดหลังจากที่ทำงานมาตลอดทั้งวัน ในปี 2547 คุณไดสุเกะ ได้รับรางวัล อิ๊กโนเบล สาขาสันติภาพ ซึ่งเป็นรางวัลที่คนอเมริกันจัดขึ้นเพื่อเป็นการล้อเลียนรางวัลโนเบล รางวัลนี้เน้นที่ความแปลก ขบขัน แต่ชวนให้คิด พิธีแจกรางวัลจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เป็นประจำทุกปี ( อิ๊ก ย่อมาจาก อิ๊กนอร์ หมายถึงไม่สนใจ อิ๊กโนเบล แปลว่า ไม่สนใจรางวัลโนเบล )
สำหรับบ้านเรา
คาราโอเกะ จัดเป็นสิ่งบันเทิงยอดนิยมด้วยเช่นกัน ผมขออนุญาตชื่นชม ชมรม มก. อาวุโส
ที่ทันกระแสโลก
ด้วยการเปิดสอนร้องเพลงคาราโอเกะมา
3 รุ่นแล้ว และขอประชาสัมพันธ์ว่าจะเปิดสอนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นรุ่นที่ 4 ในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ผู้สอนยังเป็นครูเพลงเจ้าเก่าคนเดิม คือ ท่านอาจารย์ สะเทื้อน ปิ่นน้อย อดีตอาจารย์คณะประมง ผู้คร่ำหวอดอยู่กับการสอนร้องเพลงและสอนลีลาศมานานหลายสิบปี และคุณ ไพศาล หาญพานิช ศิษย์เก่า มก. รุ่น 23
นอกจากนี้ยังมีนักเรียนรุ่นที่
1 ซึ่งไปเรียนเพิ่มเติมจากโรงเรียนสุนทรภรณ์การดนตรีมาช่วยเสริมอีก 2 ท่าน คือ อาจารย์ สุดา ภิรมย์แก้ว อดีตอาจารย์คณะสังคมศาสตร์
และอาจารย์ อารีย์ วงศ์ใจหาญ ซึ่งเป็นผู้ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1
ในการประกวดร้องเพลงของชมรม
มก. อาวุโส เมื่อเร็วๆนี้
ท่านที่เป็นโรคกลัวไมค์
และไม่มีความมั่นใจว่าชีวิตนี้จะร้องเพลงบนเวทีได้ ผมขอแนะนำว่า รีบไปสมัครเรียนรุ่นที่ 4 นี้เลยครับ รับรองว่าถ้าได้เป็นลูกศิษย์ของคณะผู้สอนที่ผมกล่าวนามมาทั้งหมด โรคนี้จะหายเป็นปลิดทิ้ง ยิ่งไปกว่านั้น ถ้ามีโอกาสได้จับไมค์เมื่อไหร่ แทบไม่อยากวางเลยทีเดียว กลับต้องระวังเพราะอาจเป็น ไมโครโฟนลิสซึม โดยไม่รู้ตัว
ปล. ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ชมรม มก. อาวุโส ชั้น 2 อาคารสารนิเทศ 50 ปี หรือ ที่คุณ เปมิกา โทร 086-570 4285 ด่วน!
เพราะรับจำนวนจำกัดจริงๆ
(ได้ข่าวว่าอย่างนั้น)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น