วันจันทร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2556

เป็นกรรมการเพียง 1 ปี เข้าใจสหกรณ์ดีขึ้นมากเลย


เป็นกรรมการเพียง 1 ปี เข้าใจสหกรณ์ดีขึ้นมากเลย




สิบรู้ไม่เท่าเคย คำพังเพยนี้เป็นจริงและแน่นอนเสมอคือ คนเราถ้าอยากจะรู้เข้าใจอะไรจริงๆ เรื่องใดๆ แล้ว จะต้องได้ผ่านสิ่งนั้นมาแล้วด้วยตนเองจริงเท่านั้น คล้ายๆ กับสุภาษิตที่ว่า สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ สิบมือคลำไม่เท่าทำเอง นั่นแหละ ยิ่งเป็นครูบาอาจารย์เขาถ้าไม่เคยผ่านการปฏิบัติหรือเห็นมาด้วยตาตนเอง แค่เพียงจำหรืออ่านตำราเขามาสอนก็ไม่เท่ากับเอาสิ่งที่ทำมากับมือคือได้รู้จริง เห็นจริงมาสอนหรอก

            อาจารย์อัจฉรีย์ จันทลักขณา หรือรู้จักกันดีในนามอาจารย์อ้วนหรือพี่อ้วน แต่ได้ยินญาติพี่น้องจากบ้านป่าเห็ว ลำพูน เรียกว่า มี หรือ บุญมี มีนามสกุลเดิมว่า วิชาเจริญ เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนดังกระโปรงแดงจากเชียงใหม่คือโรงเรียนดาราวิทยาลัย จากนั้นก็มาเข้าสู่รั้วจามจุรีอยู่ 4 ปี ก็จบออกมากับปริญญาพาณิชยศาสตร์บัณฑิต สาขาสถิติ ในปี .. 2507 ก็ตรงกลับบ้านไปรับราชการทันทีที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเข้าใจว่าเพิ่งจะเปิดทำการใหม่ๆ

            ด้วยเหตุอันใดไม่ทราบได้ เพียงสองปีเต็ม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เราก็โชคดีที่ได้รับโอนอาจารย์อัจฉรีย์ มาครองตำแหน่งอาจารย์ตรี สังกัดสำนักงานเลขานุการฯ ทำงานได้ครบ 1 ปี ก็ลาไปศึกษาต่อต่างประเทศ และกลับมาบรรจุใหม่ สังกัดบัณฑิตวิทยาลัย ซึ่งกำลังจะก่อตั้งคณะใหม่ๆ เช่นกัน อาจารย์อัจฉรีย์ ปฏิบัติหน้าที่ในบัณฑิตวิทยาลัยเกือบทุกตำแหน่งแม้กระทั่งรักษาการคณบดี แต่งานที่รักและชอบจริงๆ คือไปเป็นอาจารย์พิเศษทำการสอนวิชาสถิติให้กับภาควิชาสถิติ คณะวิทยาศาสตร์ตั้งแต่เริ่มแรก อาจารย์อัจฉรีย์จบในสาขาสถิติโดยตรง ชอบและรักการสอนในวิชานี้มาก สถิติเป็นวิชาที่ยากที่จะเข้าใจได้โดยเฉพาะนิสิตเกษตรเรา  แต่ท่านก็ตั้งอกตั้งใจสอนให้นิสิตผู้น่าสงสารได้รู้และเข้าใจจนสอบผ่านจนได้ ท่านจึงเป็นที่รักและขวัญใจของนิสิตเหล่านี้มาก คงเพราะด้วยเหตุนี้และท่านจึงต้องมารักและบูชาคู่ชีวิตของท่าน ซึ่งแม้จะจบมาทางสัตวบาลแต่เป็นผู้ที่เก่งและเชียวชาญในทางสถิติมากคนหนึ่งในประเทศไทย หลายคนคงจะได้ผ่านตำราสถิติของท่านศาสาตราจารย์ท่านนี้มาแล้ว

            ในทางราชการอาจารย์อัจฉรีย์ก็ได้รับการพิจารณาเลื่อนขึ้นเป็นรองศาสตราจารย์ระดับ 9 ในปี .. 2538 และเกษียณอายุราชการในตำแหน่งนี้เมื่อ 30 กันยายน 2543

            ผมสังเกตเห็นว่าอาจารย์อัจฉรีย์จะรู้หน้าที่และใช้บริการกับสหกรณ์ออมทรัพย์เราอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ การประชุมใหญ่ การเลือกตั้ง การฝากเงิน การกู้ยืมทุกรูปแบบ และมักเสนอแนะบางอย่างที่เป็นประโยชน์โดยไม่รู้มาก่อนเลยว่าแท้ที่จริงแล้วท่านเคยทำหน้าที่กรรมการดำเนินการมา 1 ปี เมื่อ .. 2519 จนมาผ่านตาตอนที่ทำหนังสือ 36 ปี และ 50 ปี สอ.มก. นั่นแหละจึงได้รู้ แสดงว่าเพียง 1 ปีที่ท่านได้บวชเรียนใน สอ.มก. นั้นทำให้ท่านได้รู้และเข้าใจอย่างซาบซึ้งในสหกรณ์ออมทรัพย์ได้เป็นอย่างดี สมกับที่ท่านชื่อ อัจฉรีย์ หรือ อัจฉริยะ นั่นเอง

            ท่านได้จากพวกเราไปเมื่อก่อนปีใหม่ที่ผ่านมา และได้ฌาปนกิจไปแล้วเมื่อ 26 .. 2555 และมีเพื่อนเลิฟจากเชียงใหม่เดินทางมาส่งเป็นครั้งสุดท้ายที่วัดเสมียนนารีด้วย (ข่าวสาร สอ.มก. ฉบับที่ 12 เดือนมกราคม) เจ้าหน้าที่และกรรมการปัจจุบันคงไม่ทราบว่าท่านเคยเป็นกรรมการดำเนินการจนผมได้แจ้งไปจึงได้ไปร่วมเป็นเจ้าภาพตามประเพณี จะไม่เขียนอะไรเลยหรือก็มีคนมาสะกิดว่าทำให้เหมือนๆ กันหน่อยซิทีกรรมการท่านอื่นยังเขียนลงให้เลยแถมยังมีคนมาถามอีกว่าท่านอาจารย์สุบงกช มาส่งใครนะเพื่อนเป็นครั้งสุดท้าย

 
.แดงสุภา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น