พระท่าน
“บ่น” อะไรของท่าน
ว.
โชติญาณ
ทอดผ้าบังสุกุลจะเห็นทำกันเป็นประจำเพื่อเป็นการอุทิศส่วนบุญกุศลไปให้ผู้ที่ตายไปแล้ว
เห็นบ่อยตอนพระสวดศพเสร็จ หน้าศพก่อนจะเผาหรือเมื่อทำบุญให้คนตาย
คนที่ตายไปแล้วจะได้รับส่วนบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่นั้น
ยังไม่แน่นักเพราะยังไม่เห็นมีใครกลับมาบอกเลยสักคน แต่ก็เป็น “ความเชื่อ” ที่เป็นประเพณีทำต่อๆ
กันมาเพื่อเป็นการตอบแทนพระคุณผู้ที่ตายไป
ผู้ที่ได้กระทำการนี้แล้วก็จะได้สบายใจขึ้น
พอถวายผ้า วางบนสายโยง
(ที่ต่อมาจากศพ) เสร็จ ที่จริงคนทอดก็ไปได้เลยเพราะไม่เกี่ยวแล้ว ที่นี้ก็เป็นหน้าที่ของพระที่จะเอาตาลปัดบังหน้า
ส่วนอีกมือก็จับผ้าที่ทอดแล้วก็ “บ่น” พึมพำว่า :-
อนิจจา วะตะสังขารา แปลว่า สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ
อุปปาทะวะยะธัมมิโน แปลว่า เกิดขึ้นแล้วย่อมเสื่อมไปเป็นธรรมดา
อุปปัชชิตฺวา นิรุชฌันติ แปลว่า เกิดขึ้นแล้วย่อมดับไป
เตสังวูปะสะโมสุโข แปลว่า หากสงบระงับสังขารทั้งหลายได้ก็จะเป็นสุขอย่างยิ่ง
พระท่าน “บ่น” ทำไม?
บ่นให้ใครฟัง? ฟังแล้วได้อะไร? ไม่ใช่บ่นเขาเรียกว่า “พิจารณา” ผ้าบังสุกุล
สรุปแล้วเราควรจะได้ประโยชน์จากพิธีกรรมนี้บ้าง:-
j เพื่อพระท่านผู้พิจารณาจะได้ “ปลง” สลด
สังเวชในความตายโดยคิด-พิจารณาจากบทสวดที่ท่านท่องบ่น แล้วคิดว่าท่านปลงไม๊ว่า
สังขารหรือการปรุงแต่งมันเป็นธรรมดาเกิดขึ้นแล้วย่อมดับไป
หากสงบระงับไม่ได้ก็จะทุกข์
k ถ้าคนฟัง ฟังรู้เรื่อง และเข้าใจในความหมายก็จะได้ปลงหรือพิจารณาในสัจธรรมนี้ด้วย
นั่นแหละคือสารประโยชน์ที่ควรจะได้รับแน่ๆ จากการทอดผ้าบังสุกุล ควรจะทำใจให้ได้และท่องพิจารณาเวลาทุกข์
แล้วที่ทำๆ
กันทุกวันนี้มันได้อะไรขึ้นมา นอกจากเพียงแค่ได้ทำแล้วไงตามประเพณี
ได้ความสมหน้า-ตา ได้ตอบแทนคุณผู้มีพระคุณ ตอนที่ท่านตายไปแล้ว และได้แลกกันไปงาน
และมักจะมีแถมได้มีนักการเมืองมาร่วมเสนอหน้าหาเสียงด้วย สังคมนะสังคม
รักษากันแต่หน้า ผิวภายนอก แก่นแท้ที่ควรจะได้คืออะไรมีแต่จะหมดไปและหมดไป
หมายเหตุ สังขาร
มันแปลว่าอะไรหรือ หมายถึงอะไรกันแน่นะ
สังขาร คือ ร่างกายและจิตใจ
และรูปธรรมนามธรรมทั้งหมดทั้งสิ้น
สังขาร ที่พิจารณากัน ณ ที่นี้คงอยากจะให้หมายถึง ศพ หรือร่างกาย
แต่เมื่อพิจารณากันอย่างถ่องแท้แล้วในบทสวดนี้ น่าจะหมายถึง สิ่งที่ถูกปัจจัยปรุงแต่ง
สิ่งที่เกิดจากเหตุปัจจัย เป็นรูปธรรมก็ตาม นามธรรมก็ตามได้แก่ ขันธ์ 5
ทั้งหมดตรงกับคำว่า “สังขตะ” หรือสังขตธรรม (มิใช่ศพ)
จึงไม่ควรนำมาใช้พิจารณาศพ (สวนโมกข์ท่านว่าอย่างนั้น)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น