วันพุธที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2557

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในสังคมปัจจุบัน


สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในสังคมปัจจุบัน

โดย  ...

j เอาคนโง่ไม่รู้จริง ทำเองไม่เป็นจริง มาเป็นครู เพราะเมื่อลูกศิษย์ได้รับคำสอนคำแนะนำที่ผิดๆ ให้แนวความคิดที่ผิดๆ มา ลูกศิษย์ยังไม่รู้จักกลั่นกรองก็คงจะโง่ตามกันไปหมด อันนี้แหละน่ากลัวอย่างยิ่ง ขอเถิดท่านที่ไม่รู้ไม่เข้าใจจริง และยังทำเองไม่ได้ อย่าได้ริอ่านสอนลูกศิษย์เลยจะเป็นบาปอย่างยิ่ง

k เอาคนที่ไม่มีศีลมาเป็นพระให้คนกราบไหว้และซ้ำมาอบรมสั่งสอนผู้อื่นให้อยู่ในศีลในธรรม อันนี้เป็นสิ่งน่าทุเรศและอันตรายอย่างยิ่ง ขอข้าวชาวบ้านกิน (ภิกษุ) แต่ไม่ปฏิบัติในศีล (ทุศีล) เป็นบาปอย่างหนัก พระพุทธองค์ได้กล่าวโทษไว้อย่างหนักเป็นอันมาก สำหรับบุคคลจำพวกนี้

l เอาคนที่ไม่มีความเที่ยงตรงและยุติธรรมมาเป็นผู้พิพากษา ตัดสินคดีความ อันนี้แหละที่ทำให้ประเทศชาติล่มจมเพราะไร้ที่พึ่งพาเป็นหลักได้ ซึ่งจะได้เห็นจากหลายๆ มาตรฐานที่ปรากฎ

 เอาคนโกหกพูดเท็จปลิ้นปล้อนมาเป็นนักการเมือง นักการเมืองอาจจะต้องมีคุณสมบัติดีและไม่มีคุณสมบัติเลวในหลายๆ ประการก็จริง แต่ที่ต้องเริ่มต้นและสำคัญที่สุดคือ การไม่โกหก หรือพูดเท็จใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น มีไหมนักการเมืองที่กล้าพูดว่าตัวเองโกงกินทั้งที่โกงกินอยู่ มีไหมนักการเมืองที่ไม่พูดเท็จโกหกใส่ร้ายฝ่ายตรงข้าม สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในขณะนี้คือ สภาในขณะนี้ และม๊อบในขณะนี้มีแต่การพูดเท็จ ใส่ร้ายป้ายสีกันของนักการเมืองจนประชาชนไม่อาจจะเชื่อถือได้เลย

            การเจรจาปราศัยเท็จของนักการเมืองทุกวันนี้จึงเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด อันจะทำให้ประเทศล่มจมได้ คนเราถ้าเริ่มต้นจากการที่ไม่กล้าพูดผิดไปจากความจริง ที่รู้อยู่และกระทำอยู่ได้แล้วอย่างอื่นๆ ก็จะดีและถูกต้องตามมา แต่ถ้าเริ่มจากปากกล้าพูดโกหกแล้ว อย่าคิดเลยว่าอย่างอื่นๆ จะไม่ชั่วช้า

n เอาคนที่ไม่มีภาวะผู้นำมาเป็นผู้นำ เช่น ไม่มีความรู้ความสามารถแล้ว ไม่มีความกล้าในการตัดสินใจอีกทั้งไม่มีบารมีของตนเองจริงๆ มากพอ เป็นต้น เมื่อผู้นำไม่แข็งแกร่งพอ โดดเด่นพอก็ยากนำพาองค์กรให้เดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว แม้ทีมจะแข็งแรงก็ตาม แต่จะมีใครที่ดีกว่าล่ะ หรือจะเอานกกระสามาเป็นผู้นำเสียเลยก็ได้นะ

o เอาสิ่งไม่ศักดิ์สิทธิ์จริงมาหลงกราบไหว้บูชา เป็นการสูญเสียของเซ่นไหว้โดยมิได้ช่วยบันดาลให้ได้ตามที่ร้องขอ อันนี้เป็น ความหลง อันยิ่งใหญ่ที่พระพุทธองค์ทรงได้ตรัสสั่งสอนไว้แต่แรก ว่าให้เชื่อในการกระทำของตนเอง และให้บูชากราบไหว้ในคุณความดีเท่านั้น  จึงเป็นการน่ากลัวอย่างยิ่งที่คนส่วนมากยังหลงบูชากราบไหว้ในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ช่วยดลบันดาลให้ได้ลาภ ยศ ได้เงินทองร่ำรวยกันอย่างไร้เหตุผล ดังเช่นว่า การงานไม่ทำ เช้าค่ำบนบาน เซ่นไหว้ ขอหวยอย่างนี้ก็น่ากลัวเหมือนกัน

p เอานักวิชาการไม่เป็นกลางมาวิพากษ์วิจารณ์ เมื่อบุคคลที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับว่าเป็น ผู้รู้” “ผู้เชี่ยวชาญ มาพูดหลายๆ คนก็ย่อมต้องเชื่อตามไว้ก่อน แต่ถ้านักวิชาการผู้นี้เป็นเสียเองคือ ไม่มีความบริสุทธิ์ของการเป็นนักวิชาการก็จะมีเจตนานำเสนอเฉพาะข้อมูลที่มีผลประโยชน์กับตนเองและพวกตนเอง นี่แหละคืออันตรายและสิ่งน่ากลัวอย่างยิ่ง ถ้าจับได้ว่านักวิชาการหรือครูอาจารย์ท่านใดเป็นเช่นนี้ก็ให้เลิกเชื่อไปเลยและควรประนามด้วยซ้ำ เพราะเป็นสิ่งน่ากลัวที่จะให้วิพากษ์ต่อไป

q สื่อสารมวลชนหรือนักข่าวที่ไม่มีวุฒิภาวะหรือไม่มีความรับผิดชอบพอมาเป็นสรณะ อันนี้แหละที่อาจทำให้เกิดความวุ่นวายหรือเข้าใจผิดพลาดอันยากที่จะแก้ไขในบางครั้ง ในประเทศเจริญแล้วข่าวสารต่างๆ ไปเร็วมากและมักจะเชื่อไว้ก่อน การรายงานหรือแจ้งข่าวใดๆ ที่ไม่เป็นจริงหรือบิดเบือนจึงเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างยิ่งอย่างหนึ่ง

            หมดแล้วยังล่ะสิ่งที่น่ากลัวที่สุด ควรจะยังมีอีก แต่รอให้คนอื่นๆ เขียนส่งมาบ้างก็แล้วกัน ตอนนี้ขอแค่นี้ก่อน เอ้าแล้วผีละไม่กลัวเหรอ กลัวซิและกลัวสุดๆ ด้วย แต่ยังไม่เจอผีจริงสักทีจนอายุอานามป่านนี้แล้ว แต่ก็ยอมรับว่ากลัวนั่นแหละคือกลัวตามๆ กันมาโดยไร้เหตุผลที่  เอาผี” 7-8 ตัวที่กล่าวมานี้แหละไปกลัวและระมัดระวังไว้ด้วยนะครับ โดยอาศัยหลักกาลามะสูตรเป็นสรณะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น