คิดเล่น ๆ ให้เห็นความจริง
กฎหมายบังคับจริงๆ หรือ
โดย
ครูรงค์
มีสมาชิกสหกรณ์หลายคนถามผู้เขียนว่า
ทำไมกฎหมายสหกรณ์ของไทยจึงบังคับว่าสหกรณ์ทุกสหกรณ์ต้องเป็นสมาชิกของสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
ผู้เขียนจึงถามว่าอะไรทำให้พวกเขาเข้าใจเช่นนั้น
สมาชิกสหกรณ์เหล่านั้นตอบว่า
เพราะ พ.ร.บ.สหกรณ์ พ.ศ.2542 ในมาตรา 108 ซึ่งพัฒนามาจากมาตรา 104 ของ พ.ร.บ.สหกรณ์ พ.ศ. 2511 ระบุว่า ให้มี “สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย” ประกอบด้วยสมาชิกที่เป็นสหกรณ์
มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมกิจการสหกรณ์ทุกประเภททั่วราชอาณาจักรให้มีความเจริญก้าวหน้า
อันมิใช่เป็นการหาผลกำไรหรือรายได้มาแบ่งปันกัน
ซึ่งคำว่าประกอบด้วยสมาชิกที่เป็นสหกรณ์นี้
แปลความได้ว่าสหกรณ์ทุกสหกรณ์ต้องประกอบกันเข้าเป็นสมาชิกของสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
ดังที่ผู้นำสหกรณ์ที่มีชื่อเป็นที่ยอมรับในวงการสหกรณ์ของไทยท่านหนึ่งได้เคยอธิบายความหมายของกฎหมายในมาตรานี้ไว้
รวมทั้งยังอธิบายเพิ่มเติมด้วยว่า
การเป็นสมาชิกสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
จะสิ้นสุดลงก็ต่อเมื่อมีการเลิกสหกรณ์เท่านั้น
สหกรณ์ไม่สามารถลาออกได้
เป็นเรื่องแปลก
ที่มีผู้แปลความในมาตรา
108
ของ พ.ร.บ. สหกรณ์ พ.ศ. 2542 เช่นนั้น อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้ ผู้เขียนใคร่ให้ข้อสังเกตบางประการเพื่อการพิจารณาว่า
1. หลักการสหกรณ์สากล ข้อ 1. ระบุว่าการเข้าเป็นสมาชิกของสหกรณ์จะต้องเป็นไปโดยสมัครใจไม่มีการบังคับ (Open
and voluntary membership) กฎหมายสหกรณ์ของไทยก็ควรยึดถือหลักการนี้เช่นกัน
2. บทบัญญัติในมาตรา 108 ของ พ.ร.บ. สหกรณ์ พ.ศ. 2542 เป็นบทบัญญัติที่อยู่ในหมวด
8
สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
จึงน่าจะเป็นบทบัญญัติที่ใช้บังคับแก่สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยให้มีสมาชิกได้แต่เฉพาะที่เป็นสหกรณ์
มากกว่าจะใช้บังคับให้สหกรณ์โดยทั่วไปต้องเข้ามาเป็นสมาชิกสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
3. ถ้ากฎหมายมีเจตนาที่จะบังคับให้สหกรณ์ทุกสหกรณ์ต้องเป็นสมาชิกสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
ก็น่าจะมีการบัญญัติเพิ่มเติมเอาไว้ใน
พ.ร.บ. สหกรณ์ พ.ศ. 2542 มาตรา 37 วรรคสองให้ชัดเจนว่าให้สหกรณ์ที่ได้จดทะเบียนแล้วมีฐานะเป็นนิติบุคคลและเป็นสมาชิกสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
4. ถ้ามาตรา 108 ของ พ.ร.บ. สหกรณ์ พ.ศ. 2542 เป็นการบังคับให้สหกรณ์ทุกสหกรณ์ต้องเป็นสมาชิกของสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยแล้ว
ทำไม มาตรา 117/1 ของ พ.ร.บ.สหกรณ์ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติมโดย มาตรา 15 แห่ง พ.ร.บ. สหกรณ์ พ.ศ. 2553 จึงระบุว่า
“มาตรา 117/1 ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการดำเนินการของสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
ให้ประธานกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
หรือกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
หรือสหกรณ์ที่เป็นสมาชิกไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยสหกรณ์ ร้องขอให้คณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติวินิจฉัยได้
คำวินิจฉัยของคณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติให้เป็นที่สุด”
เพราะคำว่า หรือสหกรณ์ที่เป็นสมาชิก นั้นย่อมแปลความได้ว่า ยังมีสหกรณ์ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยอยู่อีกส่วนหนึ่ง
ท่านผู้อ่านล่ะ
คิดยังไงในเรื่องนี้.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น