วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2556

กล้วยบวชชี


กล้วยบวชชี

นาม ศิริเสถียร (945)

กล้วยบวชชี เริ่มทำกันเมื่อไร ที่ไหน ใครเป็นคนริเริ่ม แล้วทำไมจึงเรียกว่ากล้วยบวชชี ขอไม่พูดถึงนะเพราะผมเกิดมาพอเดินได้ คือ เมื่อ 80 ปีมาแล้วคุณแม่ก็ทำกล้วยบวชชีให้ทาน ใครอยากรู้ก็ไปหากันเอาเองนะ หรือถามคุณหนู .ดร.เบญจมาศ ศิลาย้อย ก็ได้เพราะคนนี้เขาเชี่ยวชาญเรื่องกล้วยของเมืองไทย

วิธีทำกล้วยบวชชี นิยมใช้กล้วยน้ำว้า เหตุผล อาจเพราะหาง่าย ปลูกกันทุกบ้าน ราคาถูก ใช้กล้วยน้ำว้าที่สุกเต็มที่ เปลือกดำนิดหน่อยดีจะหวาน ถ้ากล้วยสุกไม่เต็มที่มักใช้ทำกล้วยเชื่อม ถ้านำมาทำกล้วยบวชชี จะมีรสฝาดนิดๆ ปอกเปลือกกล้วยแล้วหั่น 2 ท่อน ฝ่าซีกเป็น 4 ชิ้นพอคำ เมื่อหั่นกล้วยใส่หม้อเรียบร้อย ก็ใส่เกลือป่นประมาณ ½ ช้องแกง โรยให้ทั่วกล้วยในหม้อ น้ำตาลทรายแดง (ผมไม่นิยมทานน้ำตาลทรายขาว) 1 ช้อนแกงสำหรับกล้วย 1 หวี แต่ถ้าเป็นกล้วยหวีใหญ่ราคา 45-60 บาท ละก็ต้องใช้เกลือ 1 ช้อนแกง น้ำตาลทราย  ช้อนแกง โรยให้ทั่วกล้วยในหม้อ ใช้น้ำพอท่วมกล้วยนิดหน่อย ตั้งไฟใช้ไฟอ่อนๆ พอเดือด 4-5 นาที ก็ปิดไฟยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วยแล้วเทน้ำนมพร่องมันเนย (ฝาขวดสีขาว) ลงไปในถ้วยพอท่วมกล้วยนิดหน่อย ก็รับทานได้ ไม่ควรเทน้ำนมลงในหม้อกล้วย เพราะถ้าทานไม่หมดจะเป็นไขจับตามปากขอบหม้อ ดูไม่น่ารับประทาน เหตุที่ใช้น้ำนมฝาขวดสีขาวเพราะเป็นน้ำนมแคลเซียมสูง มีไขมันต่ำหรือไม่มีไขมัน เป็นน้ำนมสำหรับคนสูงวัย ผมทานวันละแก้วทุกวัน แต่ถ้าเป็นน้ำนมฝาขวดสีน้ำเงินเป็นน้ำนมที่มีไขมันสูงสำหรับเด็ก รสควรหวาน มันเค็มนิดหน่อย ไม่ควรทานหวานจัด เค็มจัด เผ็ดจัด ซึ่งไม่เป็นผลดีแก่สุขภาพ ลองทำดูก็เก่งเอง การทำอาหารก็เหมือนการทำลูกนั้นแหละ ลูกคนแรก แม่แรก ก็ขลุกขลักนิดหน่อย พอลูกคนที่ 2-3 แม่ที่สองก็คล่องไปเอง กล้วยบวชชีสูตรนี้เป็นของเด็กวัดแหลมทราย สงขลา ทำเลี้ยงคนงานที่ทับกวางก็หมดหม้อเหมือนกัน ก็ลองทำกันดูเดี๋ยวเก่งเอง เหตุที่จงใจให้เขียนเรื่องนี้เพราะลูกสาวหลายคนที่ สอ.มก. บอกให้ช่วยเขียน บางคนยังทำไม่เป็นสวัสดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น